วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ซอฟแวร์ประยุกต์


  1. ความหมายของซอฟแวร์ประยุกต์
ตอบ  วอฟแวร์หรือโปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทฎงานเฉาะอย่างที่เราต้องการ
  2.อธิบายความแตกต่างระหว่าง วอฟแวร์ประยุกต์"ปกับซอฟแวร์ประยุกต์เแพาะงาน
ตอบ ซอฟแวร์ประยุกต์ทั่วไปเป็นซอฟแวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนฎไปประยุกต์ในองค์กรใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะ
3.ยกตัวอย่างซอฟแวร์ประยุกต์ทั่วไปโดยระบุประเภท/ชื่อ/และประโยชน์ใช้งาน (มา 5 ตัวอย่าง)
ตอบ 1.ซอฟแวร์ประมวลผลคำ  เป็นซอฟแวร์ที่ใช้ในการจัดทฎเอกสารทุกชนิด
          2.ซอฟแวร์ตารางทำงาน  เป็นวอฟแวร์ที่ช่วยในการคำนวน วิเคราะห์ตัวเลข เพื่อใช้ในงานด้านการเงิน คณิตศาสตร์  และวิทยาศาสตร์          
          3.ซอฟฉวร์จัดฐานการข้อมูล การใช็งานคอมพิวเตอรือย่างหนึ่ง
          4. ซอฟแวร์นำเสนอ เป็นโปรแกรมที่ใช็นำเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์
          5.ซอฟแวร์ทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย เป็นกลุ่มซอฟฉวร์ประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับจัดการงานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดียมีความสามารถเหมือนเป็นผู้ช่วยในการออกแบบชิ้นงาน
4. นักเรียนรู้จัก  หรือเคยใช้ซอฟแวร์ใดบ้างตามที่ระบุในข้อ 3 และเคยใช้ทำอะไรตอบให้มากที่สุด
ตอบ  1. ซอฟแวร์ประมวลคำ ใช้ในการจัดทำเอกสาร
          2.  ซอฟแวร์ตารางทำงาน ช่วยในการคำนวน สถิติ หรือ วิทยาศาสสตร์
          3. ซอฟแวร์จัดฐานการข้อมูล การใช้คอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง
          4. ซอฟแวร์นำเสนอ ใช้นำเสนอข้อมูลคอมพิวเตอร์
          5. ซอฟแวร์ทางด้านกราฟิกและมัลติมิเดีย

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตำนาน จันทโครพ

                                              ตำนาน นิทาน เรื่องเล่าเรื่องจันทโครพนี้ บางครั้งก็เรียกว่า “เรื่องโมรา” เพราะว่าโมรามักจะถูกมองว่าเป็นหญิงชั่วร้ายที่ฆ่าได้แม้กระทั่งสามีตนเอง โดยส่งพระขรรค์ให้โจรป่าฆ่าสามีตนเอง และต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องโดยย่อ

จันทโครพเป็นโอรสของพระเจ้าพรหมทัต พระองค์ทรงรักพระโอรสดั่งดวงพระทัยของพระองค์เลยที่เดียว ดังนั้นพระกุมารจึงแวดล้อมไปด้วยพระพี่เลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากพระกุมารจะต้องปกครองบ้านเมืองในภายภาคหน้า จึงจำเป็นจะต้องศึกษาวิชาทุกแขนงอันเป็นประโยชน์ต่อการปกครองของตนในอนาคต วันหนึ่งในขณะที่ทรงเพลิดเพลินอยู่ในพระราชอุทยานนั้น พระราชาก็ทรงรับสั่งให้พระกุมารเข้าเฝ้าแล้วรับสั่งให้พระกุมารไปศึกษาศิลปวิชาการกับพระฤๅษีในป่า พระกุมารก็ยินดีปฏิบัติตามพระประสงค์พระราชบิดา และเดินทางไปอยู่กับพระฤๅษี

หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว เจ้าชายจันทโครพก็เข้าไปกราบลาพระอาจารย์กลับบ้านเกิดเมืองนอน ของตน ว่าแล้วพระฤๅษีก็หยิบผอบเล็ก ๆ ส่งให้พร้อมกับกำชับอย่างหนักแน่น

“ เจ้าจงเก็บไว้กับตัว แต่จงจำไว้ว่าเจ้าจะเปิดผอบได้ก็ต่อเมื่อถึงเมืองของตนแล้วเท่านั้น อย่าเปิดในระหว่างเดินทาง มิฉะนั้นเจ้าจะประสบอันตรายถ้าไม่เชื่อฟัง ” พระฤๅษีกล่าวขึ้น

“ ครับท่านอาจารย์ หลานจะเปิดผอบก็ต่อเมื่อหลานถึงบ้านเมืองของหลานแล้วเท่านั้น ” เจ้าชายยืน ยันหนักแน่น

และแล้วจันทโครพก็มุ่งหน้าเดินทางกลับบ้านเมืองของตน เมื่อถึงเวลาเสวยอาหารกลางวันก็เข้าไปนั่ง ใต้ต้นโคนร่มไม้แล้วควักห่ออาหารแห้งที่เตรียมไว้ก่อนลาพระอาจารย์มาเสวย หลังจากเสวยเสร็จก็เกิดเคลิ้มหลับไป และก็สุบินว่า ผอบที่พระอาจารย์ให้ไว้นั้นหลุดจากมือตนตกลงน้ำไปแล้ว พระสุบินนี้เองที่กระตุ้นให้พระองค์อยากเปิดผอบดู แต่ก็ยังคงกังวลถึงคำสั่งของพระอาจารย์

ในระหว่างทาง เจ้าชายหนุ่มก็ทรงครุ่นคิดถึงผอบที่ติดตัวมาตลอดเวลา และแปลกพระทัยว่าอะไรหนอที่อยู่ข้างในนั้น ยิ่งนึกก็ยิ่งอยากเปิดดูให้แน่ และในที่สุด พระองค์ก็ตัดสินพระทัยผิดคำพูดโดยการเปิดผอบออก และในทันทีที่ฝาผอบถูกเปิดออก ก็มีหญิงสาวผู้เลอโฉมปรากฏออกมาจากผอมใบนั้น เธอส่งยิ้มหวาน ๆ ให้เจ้าชายหนุ่มผู้ซึ่งทอดพระเนตรอยู่ด้วยความตื่นเต้นและแนะนำตัวนางว่า

“ นายจ๋า หม่อนฉันชื่อโมราเพคะ พระฤๅษีใส่หม่อมฉันไว้ในผอบใบนี้ หม่อมฉันดีใจมากที่ได้เป็นอิสระเสียที ”

ทันทีที่เห็นหญิงสาว เจ้าชายหนุ่มก็ตกหลุมรักในทันที และขอให้นางเป็นชายาของพระองค์และแล้วทั้งคู่ก็เดินทางกันในป่า เจ้าชายจันทโครพดีพระทัยมากที่เพื่อนเดินทางแต่ในขณะเดียวกันก็ทรงกังวลว่าทำไมพระฤๅษีจึงห้ามไม่ให้เปิดผอบในระหว่างทาง ทรงครุ่นคิดเพียงลำพังแล้วก็สรุปเอาเองว่าพระฤๅษีอาจจะทดสอบดูว่าตนเป็นคนสอดรู้สอดเห็นหรือไม่เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พระฤๅษีพูดนั้นก็ปรากฏว่ากำลังจะเป็นจริงแล้วพระว่ามีโจรป่าแอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ ๆ นั้น เขาแอบดูความเคลื่อนไหวของทั้งคู่อยู่อย่างเงียบ ๆ และเมื่อได้เห็นความงามของนางโมราก็อยากได้ไปเป็นภรรยา ช่วงเวลานั้นโมรารู้สึกกระหายน้ำมาก คอของนางแห้งผากแต่ว่าไม่มีน้ำสักหยดให้นางดื่มกินได้ เจ้าชายจันทโครพก็ใช้พระขรรค์แทงเนื้อรินพระโลหิตให้โมราดื่มกินแก้กระหาย ในขณะนั้นเองโจรป่าก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ทันทีและยืนอยู่เบื้องหน้าของทั้งคู่ โจรป่ากล่าวหาทั้งคู่ว่าบุกรุกเข้ามายังถิ่นของตน แต่เจ้าชายยืนกรานว่าป่าไม้ใช่ที่ของผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ ชายทั้งสองจึงเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง

โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกต่อไป เจ้าโจรพุ่งเข้าใส่จันทโครพแล้วชกเขาล้มลงกับพื้นก่อนที่ จันทโครพจะมีโอกาสชักพระขรรค์ออกมาเสียด้วยซ้ำไป ทั้งคู่ต่อสู้กันอยู่บนพื้นอยู่พักหนึ่งก่อนที่โจรป่าได้เปรียบ แต่เจ้าชายมีทักษะในการต่อสู้ได้ดีกว่าเพราะได้รับการสั่งสอนมาจากพระฤๅษี จันทโครพจึงสามารถผลักโจรป่าและเรียกให้ภรรยาพระขรรค์ให้ตน โมราจับพระขรรค์ไว้แต่ลังเลที่จะส่งให้สามีตนเพราะไม่ต้องการให้เจ้าชายฆ่า โจรป่าผู้ซึ่งเป็นคนที่นางมีใจให้อยู่ด้วยเหมือนกันในตอนนี้ เมื่อไม่สามารถจะตัดสินใจได้ในยามคับขันเช่นนี้ นางก็วางพระขรรค์ไว้ตรงกลางชายทั้งสอง แต่ว่าให้ด้ามหันไปทางโจรป่า ในขณะที่ด้านคมหันไปทางสามีทั้งคู่จึงกรูกันไปแย่งอาวุธในเวลาพร้อมกัน จันทโครพถูกคมมีดบาดจึงปล่อยพระขรรค์ เป็นจังหวะที่โจรป่าได้โอกาสเพราะกำด้ามพระขรรค์ได้โอกาสเพราะกำด้ามพระขรรค์ได้ จึงแทงเจ้าชายจันทโครพสิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้นเอง ร่างของเจ้าชายนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้น

ตอนนี้เองที่โมรารู้สึกใจที่เห็นร่างอันไร้วิญญาณของเจ้าชายจันทโครพแต่ก็สายเกิน ไปที่จะช่วยชีวิตให้ ฟื้นคืนมาได้ และแล้วนางก็ตามโจรป่าผู้ซึ่งจูงมือนางนำทางไป หลังจากได้โมราเป็นภรรยาแล้วโจรป่าก็มาคิด ตรึกตรองว่า หญิงผู้นี้เป็นคนชั่วร้ายเพราะแม้แต่สามีของนางก็ยังทรยศได้ลงคอ นางฆ่าได้แม้กระทั่งชายผู้ซึ่งเสียสละเลือดให้นางดื่มกินแทนน้ำ ในภายภาคหน้านางก็อาจจะกระทำแบบนี้กับเขาก็ได้ ในขณะที่โมรานอนหลับโจรป่าก็ทิ้งนางไว้ในป่าแต่เพียงลำพัง

เมื่อตื่นขึ้นมา ไม่พบสามีใหม่ โมราก็หลงทางในป่าแต่เพียงลำพัง และรู้สึกหิวอย่างมาก นางไม่รู้ว่า จะหาอาหารอย่างไร จึงได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น

ฝ่ายพระอินทร์เมื่อเล็งทิพยเนตรเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็เสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อสอนบทเรียน แก่โมราให้เข็ดหลาบและช่วยชุบชีวิตจันทโครพแล้วพระองค์ก็แปลงร่างเป็นเหยี่ยวคาบชิ้นเนื้อไว้ในปาก

ทันทีที่เห็นชิ้นเนื้อในปากนก โมราก็ร้องเรียกขอส่วนแบ่งบ้าง แต่เหยี่ยวทำเป็นแกล้งถามว่านางจะ ให้อะไรเป็นของแลกเปลี่ยนกับชิ้นเนื้อของตน โมราไม่รีรอที่จะเสนอตัวเองเป็นภรรยาของสัตว์เดรัจฉานอย่าง เช่นเหยี่ยว เมื่อได้ยินเช่นนี้ นกเหยี่ยวก็โกรธมากและทันใดนั้นก็กลายร่างเป็นพระอินทร์อย่างเดิม พระองค์ ชี้นิ้วไปที่โมราและประมาณว่า

“ เจ้าเป็นหญิงชั่วร้าย แม้ว่าเจ้าจะมีสามีที่ดีแสนดีก็ยังแบ่งใจให้ชายอื่นที่ตนไม่รู้จักมาก่อนเมื่อโจร ป่าหนีไปจากเจ้าตอนนี้เจ้าตอนนี้ก็ยังยกกายให้เป็นภรรยาของเหยี่ยวอีกเพียงเพื่อ ให้ได้มาซึ่งชื้นเนื้อเท่านั้น เจ้าพร้อมที่จะสมสู่กับสัตว์เดรัจฉานโดยปราศจากยางอาย ”

ทันทีที่สิ้นคำประมาณของพระอินทร์ร่างของโมราก็กลายเป็นชะนี พร้อมน้ำตานองหน้าร้องเรียกหา ผัว ผัว ผัว ผัว แล้วนางชะนีที่มีหน้าเศร้าก็โดดเข้าป่าหายไป ตั้งแต่นั้นมาชะนีก็จะร้องหาผัวอยู่ตลอดเวลา บางแห่งก็จบเนื้อเรื่องแต่เพียงเท่านี้ แต่ก็มีบางแห่งกล่าวว่าพระอินทร์ทรงร่ายมนต์ชุบเจ้าชายจันทโครพให้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง และทรงตรัสสอนเจ้าชาย

เราคือพระอินทร์ เจ้ามีกรรมแต่หนหลัง โมราเป็นหญิงชั่วร้ายไม่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ครองของเจ้า หญิงที่เกิดมาเพื่อเป็นภรรยาของเจ้าแท้ที่จริงแล้วเป็นธิดาพญานาค พระอินทร์ทรงตรัสแล้วก็หายไป

กล่าวกันว่าและแล้วเจ้าชายจันทโครพก็ได้พบเนื้อคู่ในอนาคตของพระองค์มีนามว่า “ นางมุจลินท์ ” ซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำทอง บิดาของนางรักนางดุจดวงใจ จึงให้นางอยู่แต่ในถ้ำท่ามกลางการอารักขาอย่างแน่นหนา

อย่างไรก็ตาม จันทโครพก็สามารถเล็ดลอดเข้าไปจนได้และเกี๊ยวพาราสีนาง จนกระทั่งนางหลงรักพระองค์ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จนกระทั่งนางมุจลินทร์มีครรภ์แล้วจันทโครพก็ตัดสินใจเข้าไปขอขมาพญานาคและแล้วทั้งคู่ก็ออกเดิน ทางไปยังเมืองของเจ้าชายจันทโครพ เพราะราชบิดาของพระองค์กำลังรอการกลับมาของ พระองค์ ในเนื้อเรื่อง กล่าวว่าในระหว่างที่ทั้งคู่เดินทางไปนั้น ทั้งคู่ก็พบกับศตรูและอุปสรรคมากมาย แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ได้กลับมาอยู่ และปกครองเมืองพรหมทัตจนกระทั่งชราภาพ และสิ้นพระชนม์อย่างสงบ พระโอรสของทั้งสองพระองค์พระนามว่า “ เจ้าชายจันทวงศ์ ” ได้ขึ้นครองราชย์แทน และปกครองพระนครอย่างมีความสุขเรื่อยมา
[ตำนาน นิทาน เรื่องเล่า]

ทัศนศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช

คำถาม

                คำถาม...

1. โปแกรมแปลภาษาคือ .... ?
ตอบ  เป็นซอฟเเวร์ชุดคำสั่งทำหน้าที่เปลี่ยนจาก  Sovce Prgram ให้เป็นObject  Program


2. โปรแกรมแปลภาษาทำหน้าที่.... ?

ตอบ เปลี่ยนจาก Sovrce Proram ให้เป็น Object  Program


3. โปรแกรมแปลภาษาแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง        
ตอบ มี 2 ประเภท
         1. ตัวเเปลภาษาระดับตํ่า
         2. ตัวเเปลภาษาระดับสูง


4. ตัวแปลภาษาระดับต่ำ ทำหน้าที่ ... .?
ตอบ  เเปลจากภาษาระดับตํ่าให้เป็นภาษาระดับเครื่อง


5. แอสแซมเบลอร์ คือ ....?
 ตอบ เเปลจาก เเอสแซมเบลอร์ ให้เป็น แอมแซมบลี


6. ตัวแปลแปลภาษาระดับสูง ทำหน้าที่ …?
ตอบ แปลจากภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง


7. ตัวแปลภาษาระดับสูงแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ มี 2 ประเภท
         1. คอมไพเลอร์
         2. อินเตอร์พลีตเตอร์


8. คอมไพเลอร์ กับ อินเตอร์พลิตเตอร์ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ ต่างกัน เพราะ   คอมไพเลอร์เป็นการตรวจสอบคำสั่งหลายคำสั่งเเต่อินเตอร์พลิตเตอร์ตรวจทีละคำสั่ง
     
          

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

System software

1.ซอฟต์เเวร์(System   software)เเบ่งเป็น 3 ประเภทอะไรบ้าง
   ตอบ.   1.ระบบปฏิบัติการ
    2.โปรเเกรมเเปลภาษาคอมพิวเตอร์
    3.โปรเเกรมอรรถประโยชน์

2.ระบบปฏิบัติการคือ............?
    ตอบ.  ซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมเเละประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์

3.ระบบปฏิบัติการมีความสำคัญอย่างไร
   ตอบ.  คอมพิวเตอร์จะทำงานไม่ได้ถ้าไม่มีระบบปฏิบัติการ

4.ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่อย่างไร
ตอบ.  1.การจองเเละการกำหนดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์
2.การจัดตารางงาน
3.การติดตามผลของระบบ
4.การทำงานหลายโปรเเกรมพร้อมกัน
5.การจัดเเบ่งเวลา
6.การประมวลผลหลายชุดพร้อมกัน

5.ตัวอย่างระบบปฏิบัติการสำคัญที่ครวรู้จัก 6 ชนิด
ตอบ.  1.ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์
2.ระบบปฏิบัติการเเมคอินทอช
3.ระบบปฏิบัติการลินุกซ์
4.ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
5.ระบบปฏิบัติการปาล์ม
6.ระบบปฏิบัติการซิมเบียน

6.เเอนดรอยด์ (Android)คือ................?
ตอบ.  เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา

7.ios  คือ อะไร
ตอบ.    iOS เป็น "ระบบปฏิบัติการ" ของ iPhone, iPod touch, iPad และ Apple TV
                

ซอฟต์เเวร์ระบบ

                                          ซอฟแวร์ระบบ
ซอฟเเวร์ระบบ(System software)เป็นโปรเเกรมควบคุมเเละประสานงานการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เเละอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยซอฟต์เเวร์ระบบเป็นตัวสั่งการ
ควบคุมภายในหน่วยประมวลผลกลาง(CPU)
   
ซอฟต์เเวร์ระบบ มี 3ประเภท

1.  ระบบปฏิบัติการ
2. โปรเเกรมเเปลภาษาคอมพิวเตอร์
3.  โปรเเกรมอรรถประโยชน์

                     คำถาม
1.ซอฟต์แวร์ระบบมีกี่ประเภท
ก.  5  ประเภท
ข.  3  ประเภท

2.ซอฟเเวร์ระบบหมายถึง
ก.   เป็นโปรเเกรมควบคุมเเละประสานงานการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เเละอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์
ข.   เป็นซอฟต์เเวร์ที่ใช้ตามความต้องการของผู้ใช้

                  เฉลย
1.  ข.
2.  ก.

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ระบบปฏิบัติการ

                                                        ระบบปฏิบัติการ  
ระบบปฏิบัติการ (Operating  System : OS)  เป็นซอฟต์เเวร์ที่ใช้สำหรับควบคุมประสานงานระหว่างอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด  ตั้งเเต่CPU  หน่วยความจำ  ไปจนถึงนำเข้า
เเละหน่วนส่งออก เรียกว่า เเพลตฟอร์ม (Platform) จะทำงานได้จำเป้นต้องมีระบบปฏิการ
ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์เเล้วเเต่ของเเต่ละบริษัท
            หน้าที่ของระบบปฏิบัติการมีดังนี้
1.การจองเเละการกำหนดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์
2.การจัดตารางงาน
3.การติดตามผลของระบบ
4.การทำงานหลายโปรแกรมพร้อม
5.การจัดเเบ่งเวลา
6.การประมวณผลหลายชุดพร้อมกัน
ตัวอย่างระบบปฏิบัติการ   มีดังนี้
1.ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์(Microsoft  Windows)
 2.ระบบปฏิบัติการเเมคอินทอช(Macintosh  Operating  System)
3.ระบบปฏิบัติการบินุกซ์(Linux)
4.ระบบปฏิบัตการวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์(Windows  Server)
5.ระบบปฏิบัติการปาล์ม (Palm OS)
6.ระบบปฏิบัติการซิมเบียน(Symbian  OS)
               คำถาม
1.ระบบปฏิบัติการคืออะไร
   ก. เป็นโปรเเกรมควบคุมประสานงานระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายใน
   ข. เป็นซอฟต์เเวร์ควบคุมและประสานงานระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายใน

2.ระบบปฏิบัติการลินุกซ์เขียนอย่างไร
   ก.(Linux)
   ข.(Palm OS)

              เฉลย

 1.  ข
 2.  ก   

ซอฟต์เเวร์

                          ซอฟต์เเวร์

ความหมาย

        การใช้งานระบบสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน เช่น การซื้อของโดยใช้บัตรเครดิต ผู้ขายจะตรวจสอบบัตรเครดิตโดยใช้เครื่องอ่านบัตร แล้วส่งข้อมูลของบัตรเครดิตไปยังศูนย์ข้อมูลของบริษัทผู้ออกบัตร การตรวจสอบจะกระทำกับฐานข้อมูลกลาง โดยมีกลไกหรือเงื่อนไขของการตรวจสอบ จากนั้นจึงให้คำตอบว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธบัตรเครดิตใบนั้นการดำเนินการเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติตามคำสั่งของซอฟต์แวร์
aaaaa
ทำนองเดียวกันเมื่อซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า พนักงานเก็บเงินจะใช้เครื่องกราดตรวจอ่านรหัสแท่งบนสินค้าทำให้บนจอภาพปรากฎชื่อสินค้า รหัสสินค้า และราคาสินค้า ในการดำเนินการนี้ต้องใช้ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบทำงานได้
aaaaa
ซอฟต์แวร์ คือ ชุดคำสั่งที่สั่งงานคอมพิวเตออร์เป็นลำดับตามขั้นตอนของการทำงานชุดคำสั่งเหล่านี้ได้จัดเตรียมและทำขึ้นก่อนแล้วนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์อ่านชุดคำสั่งแล้วทำงานตาม ซอฟต์แวร์จึงหมายถึง การสั่งการให้คอมพิวเตอร์กระทำตามขั้นตอนและแผนงานต่าง ๆ ตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ได้ดำเนินการหรือจัดเตรียมไว้แล้ว ซอฟต์แวร์จึงเป็นผลที่มนุษย์จัดทำขึ้น และคอมพิวเตอร์จะทำงานตามกรอบของซอฟต์แวร์ที่วางไว้แล้วเท่านั้น
aaaaa
การใช้งานไมโครคอมพิวเตอร์จะเริ่มขึ้นเมื่อไมโครคอมพิวเตอร์พร้อมรับคำสั่ง โดยขึ้นตัวพร้อม (prompt) ดังรูปที่ 6.1
รูปที่ 6.1 จอภาพแสดงตัวพร้อม
aaaaaเมื่อผู้ใช้ป้อนคำสั่ง DIR ซึ่งเป็นคำสั่งให้คอมพิวเตอร์แสดงข้อมูลเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูลที่อยู่ในแผ่นบันทึกที่ติดต่ออยู่ขณะนั้นผลลัพธ์ที่ได้อาจแสดง ดังรูปที่ 6.2
รูปที่ 6.2 ตัวอย่างผลลัพธ์ของการใช้คำสั่ง DIR
aaaaaนั่นหมายความว่า ผู้ใช้ได้สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง DIR ซึ่งถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำก่อนแล้ว เมื่อเรียกคำสั่ง คอมพิวเตอร์จึงไปทำงานตามชุดคำสั่งหรือซอฟต์แวร์นั่นเอง
aaaaa
ชนิดของซอฟต์แวร์แบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ คือ ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) และซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software)
6.1.1 ซอฟต์แวร์ระบบaaaaaซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการระบบคอมพิวเตอร์ จัดการทางด้านอุปกรณ์รับเข้าและส่งออก การรับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระ การแสดงผลบนจอภาพ การนำข้อมูลออกไปพิมพ์ยังเครื่องพิมพ์ การดูแล การจัดเก็บข้อมูลเป็นแฟ้ม การเรียกค้นข้อมูล การสื่อสารข้อมูล ซอฟต์แวร์ระบบจึงหมายถึง ซอฟต์แวร์ที่ดูแลจัดการอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบ ซอฟต์แวร์ระบบที่รู้จักกันดี คือ ระบบปฏิบัติการ (operating system) เช่น เอ็มเอสดอส ยูนิกซ์ โอเอสทู วินโดวส์ เป็นต้น
6.1.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์aaaaaซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์กับงานที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์จัดเก็บภาษี ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ซอฟต์แวร์กราฟิก ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล เป็นต้น
aaaaa
การทำงานใด ๆ โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์จำเป็นต้องทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมของซอฟต์แวร์ระบบด้วย ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำต้องทำงานภายใต้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเอ็มเอสดอสหรือวินโดวส์ เป็นต้น
รูปที่ 6.3 ซอฟต์แวร์ประยุกต์จะต้องทำงานภายใต้ซอฟต์แวร์ระบบ
aaaaaซอฟต์แวร์ประยุกต์ยังแบ่งแยกออกเป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นใช้งานเฉพาะและซอฟต์แวร์สำเร็จaaaaa1) ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นใช้งานเฉพาะ คือ ซอฟต์แวร์ที่เขียนตามความต้องการของผู้ใช้หรือเฉพาะงานใดงานหนึ่ง ผู้เขียนต้องเข้าใจงานและรายละเอียดของการประยุกต์นั้นเป็นอย่างดี เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับงานจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร ซอฟต์แวร์งานธนาคารaaaaa2) ซอฟต์แวร์สำเร็จ เป็นซอฟต์แวร์ที่มีบริษัทผู้ผลิตได้สร้างขึ้น และวางขายทั่วไปผู้ใช้สามารถหาซื้อมาประยุกต์ใช้งานทั่วไปได้ เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
                        
                          ซอฟต์เเวร์ระบบ

aaaa

aซอฟต์แวร์ระบบที่รู้จักกันดี คือซอฟต์แวร์ควบคุมการปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า ระบบปฏิบัติการ
aaaaa
ระบบปฏิบัติการเป็นชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์ให้ทำงานอย่างถูกต้อง ซอฟต์แวร์นี้เชื่อมอยู่ระหว่างซอฟต์แวร์ประยุกต์กับฮาร์ดแวร์ที่เป็นหน่วยประมวลผล หน่วยความจำ หน่วยขับแผ่นบันทึก แผงแป้นอักขระและจอภาพ ในเครื่องระดับไมโครคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการนี้จะส่งงานผ่านไปยังโปรแกรมควบคุมการจัดการพื้นฐาน ซึ่งเป็นโปรแกรมย่อยขั้นพื้นฐานของการติดต่อไปยังฮาร์ดแวร์ของระบบอีกต่อหนึ่ง
aaaaa
การนำไมโครคอมพิวเตอร์มาใช้งาน ผู้ใช้จำเป็นต้องเรียนรู้คำสั่งของโปรแกรมระบบปฏิบัติการให้ได้ในระดับหนึ่ง เพื่อเป็นพื้นฐานขั้นต้นของการเรียกติดต่อกับคอมพิวเตอร์เช่น การขอดูรายการข้อมูลที่เก็บในแผ่นบันทึก การจัดรูปแบบแผ่นบันทึกเพื่อนำมาเก็บข้อมูล การสำเนาแฟ้มข้อมูล การลบแฟ้มข้อมูล และการเปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูลใหม่ เป็นต้น การเรียนรู้ระบบปฏิบัติการได้ละเอียดลึกซึ้งมากก็ยิ่งจะช่วยให้สามารถเรียกติดต่อใช้งานคอมพิวเตอร์ได้มากยิ่งขึ้น
aaaaa
ระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ แบ่งได้เป็นระบบปฏิบัติการที่ทำงานเพียงงานเดียวในเวลาหนึ่ง เช่น ซีพีเอ็ม เอ็มเอสดอส พีซีดอส แอปเปิ้ลดอส และระบบปฏิบัติการที่ทำงานพร้อม ๆ กันหลาย ๆ งานในเวลาเดียวกันเรียกว่าระบบหลายภารกิจ (multitasking system) เช่น โอเอสทู วินโดวส์ 95
6.2.1 ซีพีเอ็ม (Control Program/Microcomputer : CP/M)aaaaaซีพีเอ็ม (Control Program/Microcomputer : CP/M) จัดเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้งานกับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ขนาด 8 บิต ซึ่งปัจจุบันนี้ล้าสมัยแล้วหลังจากเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ได้ขยายมาเป็นเครื่องขนาด 16 บิต ก็ได้มีการเขียนระบบปฏิบัติการขึ้นใหม่ คือ เอ็มเอสดอส (Microsoft Disk Operating System : MS-DOS) พีซีดอส (Personal Computer Disk Operating System : PC-DOS) ระบบปฏิบัติการเอ็มเอสดอสนี้ได้รับความนิยมนำมาใช้งานกับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ระดับพีซี
6.2.2 เอ็มเอสดอสaaaaaเอ็มเอสดอส มีรากฐานมาจากระบบปฏิบัติการซีพีเอ็มนั่นเอง โดยการเขียนโปรแกรมสำหรับใช้งานกับไมโครโพรเซสเซอร์ตระกูลอินเทล ขนาด 16 บิต เบอร์ 8088 ขึ้นใหม่ที่ยังคงรูปแบบลักษณะคำสั่งคล้ายของเดิม เมื่อมีการปรับปรุงเพิ่มขยายในเวลาต่อมาเป็นรุ่น 2.0 จึงได้มีการพัฒนาขีดความสามารถให้สูงขึ้นอีกมากมาย โดยในรุ่น 2.0 นี้จะมีรูปแบบคำสั่งที่คล้ายคลึงกับคำสั่งในระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ โดยเฉพาะด้านการจัดการข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ที่จัดเป็นโครงสร้างต้นไม้ของการแบ่งระบบแฟ้มเป็นระบบย่อย
aaaaa
เอ็มเอสดอสเป็นระบบปฏิบัติการที่เหมาะสำหรับงานงานเดียว แม้จะมีซอฟต์แวร์มาเสริมช่วยการใช้งานในลักษณะหน้าต่าง (window) ทำให้สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันแต่ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก เพราะไม่ได้มีการออกแบบมาเพื่องานหลายชิ้นโดยเฉพาะ เมื่อขีดความสามารถของฮาร์ดแวร์สูงขึ้น ระบบปฏิบัติการที่เหมาะสำหรับฮาร์ดแวร์จึงได้รับการพัฒนาเพื่อมาทดแทนเอ็มเอสดอส เช่น ระบบปฎิบัติการ โอเอสทู และวินโดวส์ 95
6.2.3 ระบบปฎิบัติการโอเอสทู และวินโดวส์ 95aaaaaระบบปฎิบัติการโอเอสทู และวินโดวส์ 95 ถือเป็นระบบปฎิบัติการที่ออกแบบและสร้างมาใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ตระกูลพีเอสทูของบริษัทไอบีเอ็มจำกัดเป็นระบบปฎิบัติการที่นำมาชดเชยขีดจำกัดของเอ็มเอสดอสเดิม ด้วยการเพิ่มลักษณะพิเศษของการทำงานหลายงานพร้อมกัน เทคนิคการเรียกใช้คำสั่งเป็นเมนูและสัญรูป (icon)
6.2.4 ระบบปฎิบัติการยูนิกซ์ aaaaaระบบปฎิบัติการยูนิกซ์ เป็นระบบปฎิบัติการที่พัตนาและออกแบบสำหรับงานด้านวิชาการ และประยุกต์ใช้ทางด้านวิทยาศาสตร์ บนเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ แต่ในภายหลังก็ได้ปรับปรุงไปใช้บนเครื่องเกือบทุกระดับ รวมถึงเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ด้วย ระบบปฎิบัติการยูนิกซ์เป็นระบบใหญ่และซับซ้อน สามารถให้ผู้ใช้หลายรายทำงานหลายงานพร้อมกัน อย่างไรก็ตามจะมีขีดจำกัดที่หน่วยความจำของระบบ เป็นระบบปฎิบัติการที่นิยมใช้เป็นเครือข่ายเพื่อการติดต่อสื่อสารข้อมูลร่วมกัน

ซอฟต์เเวร์ประยุกต์ 

aaaaa

ซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกวงการ ความนิยมส่วนหนึ่งมาจากขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ประยุกต์นั้น ๆ เพราะซอฟต์แวร์ที่ผลิตออกจำหน่าย ต่างพยายามแข่งขันกันหลาย ๆ ด้าน เช่น เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย สนับสนุนให้ใช้กับเครื่องพิมพ์ได้ดี มีคู่มือการใช้ซอฟต์แวร์ที่อ่านเข้าใจง่าย ให้วิธีหรือขั้นตอนที่อธิบายไว้อย่างชัดเจน และมีระบบโอนย้ายข้อมูลเข้าออกกับซอฟต์แวร์อื่นได้ง่าย
aaaaa
ซอฟต์แวร์ประยุกต์มีอยู่มากมาย อาจแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ คือ ซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไป และซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะทาง
6.3.1 ซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไปaaaaaซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะสำหรับงานใดงานหนึ่ง ผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้นำไปประยุกต์กับงานของตน ผู้ใช้อาจต้องมีการสร้างหรือพัฒนาชิ้นงานภายในซอฟต์แวร์ต่อไปอีก ราคาของซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไปนี้จะไม่สูงมากเกินไปaaaaaซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไปซึ่งนิยมเรียกว่า ซอฟต์แวร์สำเร็จ แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มตามลักษณะการใช้งาน คือaaaaa- ด้านการประมวลคำaaaaa- ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล หรือตารางทำงานaaaaa- ด้านการเก็บและเลือกค้นข้อมูลเป็นระบบฐานข้อมูลaaaaa- ด้านการติดต่อสื่อสารทางไกลaaaaa- ด้านการพิมพ์ตั้งโต๊ะaaaaa- ด้านการลงทุนและการจัดการเงินaaaaa- ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมaaaaa- ด้านภาพกราฟิกและการนำเสนอข้อมูลaaaaa- ด้านการจำลอง เกม และการตัดสินใจaaaaaในบรรดาซอฟต์แวร์สำเร็จทั้งหลายในกลุ่มนี้ กลุ่มซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานมากและจำเป็นต้องมีประจำหน่วยงาน มักจะเป็นสี่รายการแรก คือ ด้านการประมวลคำ ด้านตารางทำงาน ด้านระบบฐานข้อมูล และด้านการสื่อสาร นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น ได้แก่ ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกเพื่อนำเสนอข้อมูล และซอฟต์แวร์การพิมพ์ตั้งโต๊ะ
aaaaa
ซอฟต์แวร์สำเร็จส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดเป็นโปรแกรมประยุกต์เชิงพาณิชย์ที่มาจากต่างประเทศ ยกเว้นเฉพาะกลุ่มแรก คือ โปรแกรมประมวลคำที่ประเทศไทยมีสร้างและพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานร่วมกับภาษาไทย โดยการนำซอฟต์แวร์เดิมมาดัดแปลงและเพิ่มเติมส่วนที่ใช้งานเป็นภาษาไทย
aaaaa
นอกจากซอฟต์แวร์สำเร็จที่กล่าว ยังมีซอฟต์แวร์สำเร็จซึ่งนำความสามารถของงานหลาย ๆ ด้านมารวมอยู่ในโปรแกรมเดียวกัน เพื่อให้สามารถใช้งานหลายอย่างได้พร้อมกัน คือ จะใช้ได้ทั้งประมวลคำ ตารางทำงาน จัดการฐานข้อมูล การนำเสนอข้อมูล และอาจรวมถึงการสื่อสารข้อมูลด้วย
aaaaa
ซอฟต์แวร์สำเร็จอาจไม่สามารถนำไปใช้กับงานโดยตรง จะต้องมีการเปลี่ยแปลงแก้ไขหรือพัฒนาเพิ่มเติม ซึ่งการแก้ไขนี้อาจต้องใช้เวลาและกำลังงาน ในบางครั้งก็ยังไม่สามารถสนองความต้องการได้ จึงเกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะอาชีพหรือเฉพาะทาง
6.3.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทางaaaaaซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะด้าน หรือในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในท้องตลาดทั่วไป แต่จะซื้อหาได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานทั่วไป
aaaaa
โครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้า และระบบของงาน ภายในซอฟต์แวร์ควรจะมีส่วนทำงานประมวลคำเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และการนัดหมายตามกำหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์เฉพาะทางนี้ มีทั้งรูปแบบที่มีผู้ใช้งานคนเดียว หรือผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคนaaaaaในประเทศไทยมีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใช้งานเฉพาะทางอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ ในที่นี้ได้รวบรวมจัดประเภท ไว้ดังนี้aaaaa1) ซอฟต์แวร์ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือนaaaaa2) ซอฟต์แวร์ระบบงานจัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานบริหารสินค้าคงคลัง ระบบงานควบคุมสินค้าแบบจำนวนและรายชิ้น และระบบงานประวัติการขายaaaaa3) ซอฟต์แวร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบงานกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุม การทำงานภายในโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า และการกำหนดขั้นตอนการผลิตaaaaa4) ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการเช่าซื้อรถยนต์

                            คำถาม

1.ซอฟต์เเวร์มีกี่ประเภท

ก.  3 ประเภท
ข.  2ประเภท

2.ซอฟต์เเวร์ประยุกต์เขียนอย่างไร

ก.  Microsoft  PowerPoint
ข.  Specilized  appliction

               เฉลย

1.  ข.
2.  ข.